Pepperstone คืออะไร? Review โบรกเกอร์ Pepperstone ข้อดี ข้อเสีย (ครบทุกข้อมูล) Loading...
Pepperstone คะแนนรวม 4.18Pepperstone ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2010 บริษัทมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย รวมถึงมีสำนักงานย่อยอยู่ที่เมืองดัลลัส ประเทศสหรัฐอเมริกา, เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และที่กรุงเทพมหานครฯ ชั้น 29 อาคาร ดิ ออฟฟิศ แอท เซ็นทรัลเวิลด์
Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน แต่ในประเทศไทย อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักไปออย่างกว้างขวางสักเท่าไหร่ เนื่องจาก Pepperstone ยังไม่ได้ทำการตลาดในประเทศไทยเต็มรูปแบบเหมือนกับโบรกเกอร์อื่นๆ จึงทำให้รู้สึกว่าระบบของโบรกเกอร์ยังขาดๆเกินๆอยู่สำหรับระบบของ Pepperstone ประเทศไทย โดยเฉพาะระบบการถอนเงินที่ควรได้รับการปรับปรุง
ความน่าเชื่อถือ Pepperstone Pepperstone ได้รับใบอนุญาต Australian Financial Services License (AFSL) และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Australian Securities and Investment Commission (ASIC)
สิ่งที่น่าเชื่อถืออีกอย่างหนึ่งของ Pepperstone คือความปลอดภัยในเงินทุนของลูกค้า ซึ่ง Pepperstone ได้แยกบัญชีของลูกค้าออกจากบัญชีของบริษัท ซึ่งมีการนำเงินของลูกค้าแยกเก็บไว้ในสถาบันการเงินต่าง ๆ ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งรวมถึงธนาคารแห่งชาติของประเทศออสเตรเลีย (National Australia Bank)
รางวัล
(5 คะแนน)ความปลอดภัยของเงินลงทุนในบัญชี
ความปลอดภัยของบัญชีเงินฝาก เรียกได้ว่า Pepperstone เด่นสุดๆเลยก็ว่าได้ เพราะ Pepperstone ได้แยกบัญชีของลูกค้าออกจากบัญชีของบริษัท ซึ่งมีการนำเงินของลูกค้าแยกเก็บไว้ในสถาบันการเงินต่าง ๆ ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งรวมถึงธนาคารแห่งชาติของประเทศออสเตรเลีย (National Australia Bank)
(4.5 คะแนน)Pepperstone จัดได้ว่าเป็นโบรกเกอร์ที่มีความมั่นคง น่าเชื่อถือในระดับหนึ่งเลยทีเดียว โบรกเกอร์ Pepperstone ได้ก่อตั้งมากว่า 8 ปีแล้วและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ASIC อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดย Australian Securities and Investment Commission แม้ทางโบรกเกอร์จะไม่ค่อยเปิดเผยข้อมูลตัวเลขมากนัก แต่จากประสบการณ์ที่เทรดมา ทาง Pepperstone ค่อนข้างน่าเชื่อถือและไม่ค่อยมีข่าวในเชิงลบเลย
(3.5 คะแนน)การฝากถอนเงินสำหรับลูกค้าในประเทศไทย จุดนี้ ถือว่าเป็นจุดอ่อนของ Pepperstone เลยก็ว่าได้ เพราะหากคุณทำการถอนเงิน ระบบจะแจ้งว่าอาจจะต้องรอนานถึง 1-3 วัน สำหรับผมแล้ว เรื่องนี้ถือว่าสำคัญมาก ยิ่งเป็นเงินจำนวนมากๆ กินไม่ได้นอนไม่หลับเลยทีเดียวถ้าหากถอนเงินแล้วยังไม่เข้าบัญชี ธนาคารไทย เนื่องจากว่าบริษัทโบรกเกอร์ในตลาด Forex เป็นบริษัทต่างประเทศที่ไม่มีกฎหมายไทยรองรับทั้งนั้น ยิ่งใช้เวลานานในการถอนเงินนานเท่าไหร่ยิ่งทำให้ไม่สบายใจ เพราะถ้าหากเงินไม่เข้าก็ไม่รู้ว่าจะตามได้จากที่ไหน แม้จะยังไม่เคยเกิดกรณีนี้ขึ้นก็ตาม แต่เพื่อความอุ่นใจเงินเข้าไวย่อมดีกว่า นอกจากนี้สาเหตุที่ทำให้คะแนนในข้อนี้น้อยก็มาจากช่องทางการฝาก-ถอนเงิน ที่ค่อนข้างไม่หลากหลายช่องทางเมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ และยังมีฝากขั้นต่ำที่ $200 หรือประมาณ 6,600 บาท
(4.5 คะแนน)จำนวนเงินสกุลเงินให้ซื้อขาย
Pepperstone มีหลายกลุ่มสินทรัพย์ให้ซื้อขายกว่า 72 ชนิด ฟอเร็กซ์, โลหะ, สินค้าโภคภัณฑ์, ทองคำ, เงิน
(4.5 คะแนน)การดูแลลูกค้าภายในประเทศไทยของโบรกเกอร์ Pepperstone เรียกได้ว่ามีการดูแลอย่างดี มีหลากหลายช่องทางให้ติดต่อ ไม่ว่าจะเป็นทางอีเมล แชทผ่านไลน์ หรือช่องทางโทร(โทรฟรี) แต่สำหรับช่องทางการติดต่อภาษาไทยยังไม่มีในวันเสาร์-อาทิตย์ ทำให้เทรดเดอร์หลายคนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษหากมีข้อสงสัยในช่วงเสาร์-อาทิตย์ อาจจะต้องรอถึงวันจันทร์ถึงจะสามารถสอบถามได้ หรือหากมีข้อสงสัย ต้องสอบถามในเวลาทำการเท่านั้น เนื่องจากว่า Pepperstone มี Support คอยช่วยเหลือในวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น. ช่องทางการติดต่อผ่านเบอร์โทรศัพท์ 1800 011 155 (โทรฟรีจากประเทศไทย) หรือติดต่อผ่านไลน์แชท @pepperstone
(4 คะแนน)Pepperstone มีเลเวอเรจให้เลือกไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่นักเมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ เนื่องจาก Pepperstone มีเลเวอเรจให้ตั้งแต่ 1:1 จนถึง 1:500 แม้การใช้เลเวอเรจสูงจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยง แต่การมีตัวเลือกเยอะๆให้เทรดเดอร์เลือกเองย่อมดีกว่า
(5 คะแนน)Pepperstone มีสเปรดที่ถูกมาก บัญชี Razor เริ่มตั้งแต่ 0.0 pips
(5 คะแนน)ระบบซื้อขายบนโปรแกรม MetaTrader 4
ในการซื้อขายกับ Pepperstone โดยรวมถือว่าดีเยี่ยมไปทางดีมาก สามารถซื้อขายบน MT4 ได้หลากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นทาง iPhone, iPad, เครื่อง PC, Mac, android, cTrader หรือบน WebTrader ก็สามารถซื้อขายได้ เรียกได้ว่า สะดวกมากๆ (5 คะแนน) Pepperstone มีประเภทบัญชีให้เลือกถึง 4 ประเภท ได้แก่ บัญชี Standard, บัญชี Razor, บัญชี อิสลาม, บัญชี Active Traders โดยแต่ละบัญชีจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เพื่อให้ตอบโจทย์เทรดเดอร์ได้มากที่สุด สำหรับเทรดเดอร์รายย่อยทั่วไปขอแนะนำ บัญชี Standdard รายละเอียดเพิ่มเติม
(1 คะแนน)โบรกเกอร์ Pepperstone ไม่ค่อยมีกิจกรรมแข่งขันเทรด โบนัส หรือโปรโมชั่นใดๆ ในข้อนี้ไม่ถือข้อเสียสำหรับเทรดเดอร์ที่ไม่สนใจเรื่องกิจกรรมแข่งขันเทรด โบนัส หรือโปรโมชั่น
(4 คะแนน) โดยรวมแล้ว Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ที่น่าเทรดโบรกเกอร์หนึ่งนอกจากความปลอดภัยของเงินลงทุนที่เป็นจุดเด่น ยังมีเรื่องความรวดเร็วของ Sever และสเปรดที่ต่ำที่เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญ แต่หลักๆจะโดนหักคะแนนที่ระบบการฝากถอนเงินและกิจกรรมของทางโบรกเกอร์ ส่วนเรื่องกิจกรรมของทางโบรกเกอร์ผมไม่ค่อยซีเรียสจึงไม่ได้หักคะแนนส่วนนี้ในข้อนี้ไป